"มีสวัสดิการดูแล “ผู้สูงวัย” ดีที่สุดในโลก" จากทั้งหมด 96 ชาติ ล้มแชมป์เก่าอย่างสวีเดนได้ ในการจัดอันดับ ปี 2557
5 อันดับแรกได้แก่
นอร์เวย์ (1)
สวีเดน (2)
สวิตเซอร์แลนด์ (3)
แคนาดา (4)
เยอรมนี (5)
สำหรับประเทศไทย ได้รั้งอันดับที่ 36 ไม่แย่เกินไปนัก ประเทศรั้งท้าย อันดับที่ 96 คืออัฟกานิสถาน
เมื่อเรามาอยู่เราจะเห็นข้อแตกต่างทั้งภูมิประเทศ และสังคมที่ต่างออกไปจากประเทศของเรา ตัวอย่างเช่น เมืองไทย มีหลายครอบครัวทิ้งพ่อแม่ให้อยู่ที่สถานรับเลี่ยงคนชรา ด้วยเหตุผลต่างๆ นานา เช่น อยากอยู่ตามลำพังผัวเมีย ไม่มีปัญญาเลี้ยง มีความจำเป็นต่างๆ มันเป็นเรื่องที่แย่ เพราะสังคมเราสอนให้กตัญญูกตเวทีต่อผู้มีพระคุณ โดยเฉพาะพ่อแม่ |
ขอบคุณภาพจากนิตยสาร ไทม์
เชื่อไหมว่า สังคมนอร์เวย์ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด ผู้สูงอายุหลายคนแฮปปี้ที่มาอยู่บ้านพักคนชรา บ้านพักที่นี่เป็นแบบอพาร์ตเม้นสวยงาม เหมือนคอนโดหรืออพาร์ทเม้นราคาแพงในเมืองไทย ที่นี่เรียกว่า อพาร์ทเม้น มีแต่ผู้สูงอายุมาอยู่ สะอาดสะอ้าน รัฐบาลจัดพยาบาลหรือผู้ที่ทำหน้าที่เกี่ยวข้องมาดูแลตลอด แต่ละสัปดาห์ครอบครัวจะมาเยี่ยมเยียนเสมอๆ ไม่เหงา
ถามว่าผู้สูงอายุเหงามั้ย ก็เหงานะ แต่ไม่มาก เพราะนอร์เวย์ให้ความสำคัญกับครอบครัวมาก งานอะไร วันหยุดอะไร ต้องไปเยี่ยมเยียนกันและกันเสมอๆ
ที่นี่มีระบบการจัดการดีมาก เรื่องสวัสดิการต่างๆ ระบบผู้สูงอายุ นอกจากนี้ระบบการดูแลคนพิการยังดีมาก
เรารู้อะไรบ้างก่อนที่จะมานอร์เวย์ หรือมาแล้วเรารู้อะไร
เราจะหาข้อมูลยังไง ได้ข้อมูลมาจากไหน สิ่งที่เรารู้มาก่อนถูกต้องหรือไม่ อะไรคือสิ่งที่แตกต่างระหว่างบ้านเกิดของเรากับประเทศที่คุณมาอยู่
คร่าวๆ จากสังคมนอร์เวย์ มีเนื้อหามากมาย ติดตามหรือคลิกอ่านได้หัวข้อต่างๆ ขวามือได้เลย
รบกวนขอข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับสังคมผู้สูงอายุในนอร์เวย์หน่อยค่
ตอบลบ